มาดูแลสุขภาพดวงตากัน
ลักษณะชีวิตสมัยใหม่ทำให้เราใช้งานดวงตาหนักขึ้น อาการที่บอกว่า เราใช้งานดวงตาหนักเกินไปได้แก่ กล้ามเนื้อตาล้า ตาแห้ง แสบตา
ไม่สามารถโฟกัสภาพให้ชัด เห็นภาพซ้อน
และอาการยังไม่ได้จำกัด เฉพาะที่ดวงตาเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะได้อีกด้วย
และสาเหตุของอาการตาล้าตาเหนื่อย ที่ทราบกันดีก็คือ การดูโทรทัศน์ เป็นเวลานาน การอ่านหนังสือในสภาพแสงที่ไม่เหมาะสมและ การทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ตลอดวันจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต พนักงานออฟฟิศ และที่สำคัญคือ การใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนและ แท็บเล็ตที่หลายๆ คน ไม่เว้นเด็กๆ ติดจนงอมแงมและปัญหานี้พบเพิ่มมากขึ้น เรื่อยๆในทุกกลุ่มอายุซึ่งวิธีการป้องกันอาการตาล้าที่ดีที่สุดคือ การพักสายตาบ่อยๆ ด้วยการมองออกไปไกลๆ ประมาณ 20 วินาที รวมทั้งหมั่นกะพริบตา เพื่อไม่ให้ตาแห้ง
1. จอประสาทตาเสื่อม
จะพบได้ในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี เกิดจากการเสื่อมของจุดรับภาพที่อยู่กลางจอประสาทตาเสื่อมลง จึงมีอาการมองเห็นภาพตรงกลางไม่ชัด แต่ยังมองเห็นขอบของภาพได้ หรือมีการมองเห็นภาพบิดเบี้ยวหรือมองเห็นเส้นตรงเป็นเส้นขาดและถ้าจอประสาทตาเสียไปทั้งหมดจะส่งผลร้ายและทำให้สูญเสียการมองเห็นในที่สุด
2. ต้อกระจก
เป็นการเกิดการหนาตัวขึ้นของเลนส์ตา ทำให้เลนส์ตา เปลี่ยนจากใสเป็นขุ่นมัวในผู้สูงอายุ ต้อกระจกทำให้การมองเห็นลดลงจนอาจเสี่ยงตาบอดได้ ซึ่งสาเหตุมาจากรังสียูวีในแสงอาทิตย์การทำลายจากอนุมูลอิสระ การบาดเจ็บการติดเชื้อไวรัส สารพิษ พันธุกรรมและปัจจัยที่สำคัญก็คืออายุที่มากขึ้นนั่นเอง
ต้องยอมรับว่าเราไม่สามารถหยุดใช้งานดวงตาและห้ามความแก่ไม่ได้แต่เราสามารถที่จะถนอมดวงตาคู่สวยของเราให้มีสุขภาพดีได้ ซึ่งป้องกันได้ด้วยหลากหลายวิธี เริ่มจาก
- พบจักษุแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพดวงตาเป็นระยะ หรืออย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
- หลีกเลี่ยงรังสียูวีในแสงแดดซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระโดยการสวมแว่นกันแดดเมื่อต้องอยู่ในที่แจ้งหรือที่มีแสงจ้า
- ออกกำลังกายเป็นประจำและถ้าหากมีโรคประจำตัวที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคตา เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ควรควบคุมโรคประจำตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- งดสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่
และรู้กันไหมว่าในส่วนของอาหารที่เรากินก็มีส่วนสำคัญต่อการปกป้องดวงตา เช่น ผักโขม ข้าวโพดเหลือง ฟักทอง และผักใบสีเขียวเข้มอื่นๆ จะช่วยปกป้อง ดวงตาด้วยการดูดกลืนแสง สีน้ำเงินและรังสียูวีที่เป็นอันตราย รวมทั้งป้องกันไม่ให้อนุมูลอิสระทำลายเซลล์จอตา
และนอกจากนี้ อาหารอื่นๆ ที่ดีต่อสุขภาพดวงตา ได้แก่ อาหารที่มีดีเอชเอสูง เช่น ปลาทะเลที่มีไขมันอาหาร ที่มีสังกะสีสูง เช่น อาหารทะเล โดยเฉพาะหอยนางรม และ อาหารที่มีวิตามินอีสูง เช่น ถั่วเปลือกแข็ง เป็นต้น
การมองเห็นเป็นหนึ่งในประสาทสัมผัสที่เปิด
โลกของเราให้กว้างขึ้นตั้งแต่วัยเด็กเราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ผ่านการมองเห็นด้วยดวงตาจนเราโตเป็นผู้ใหญ่เราก็ใช้ดวงตาอย่างไม่เคยหยุดพัก ทั้งในการทำงาน การเรียน และดูสิ่งบันเทิงต่างๆ ดวงตาที่ถูกใช้งานอย่างหนักก็ย่อมต้องเสื่อมลงไปตามกาลเวลาเมื่ออายุมากขึ้น สุดท้ายแล้ว ปัญหาสายตาที่เกิดขึ้นอาจทำให้การมองเห็นโลกของเราไม่สดใสเหมือนเดิมอีกต่อไป
💞 ไม่อยากตาบอด ไม่อยากลอกตา ด้วยสารสกัดจาก🌿
บิลเบอร์รี่ 🍒ช่วยฟื้นฟูดวงตา และถนอมสายตาด้วย🍒 Bilberry 10000 MG นำเข้าจากออสเตรเลีย 🇦🇺️ ลดความเสี่ยงของตาอักเสบ ระคายเคืองตา แสบคันดวงตา ตาพร่ามัว ต้อเนื้อ ต้อหินกระจก 👁️
😊 สั่งซื้อ และติดตามข่าวสารโปรโมชั่น และผลิตภัณฑ์ดีๆ ┏━━━━━━━━━━━┓
① ID Line : @vetaming
┗━━━━━━━━━━━┛ 👉🏻 คลิ๊กเลย http://line.me/ti/p/~vetaming
😀 สั่งเลยคะง่ายๆตามด้านล่างนี้
📞 083-2365945